ให้ ChatGPT เขียนด้วยสไตล์ของเรา
สำหรับคนที่ได้ใช้ ChatGPT แล้ว ก็จะเห็นว่าสิ่งที่ ChatGPT เขียนมานั้น นอกจากจะมีลำดับความชัดเจน ใช้ภาษาถูกต้อง อ่านเข้าใจง่าย . เรายังสามารถสั่งให้ ChatGPT เขียนในสไตล์ต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ของนักเขียนที่เราชื่นชอบ หรือสไตล์การเขียนของคนกลุ่มไหน เช่น เขียนแบบนักเรียนระดับประถม เขียนแบบคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
คำถามที่หลายคนอาจจะสงสัยคือ แล้วเราจะให้ ChatGPT เขียนด้วยภาษาเหมือนกับที่เราเขียนเองได้ไหม. คำตอบคือเป็นไปได้. แต่ก่อนอื่น เราคงต้องให้ ChatGPT รู้จักก่อนว่าสไตล์หรือวิธีการเขียนของเราเป็นอย่างไร. ซึ่งทำได้โดยการให้ ChatGPT อ่านงานเขียนของเราและเรียนรู้รูปแบบวิธีการเขียนจากงานเขียนของเราในอดีต
ในที่นี้ ผู้เขียนใช้ ChatGPT Plus โดยเลือกโมเดล GPT-4 ร่วมกับ plugin “AskYourPDF” เพื่อให้อ่านไฟล์ pdf ได้. เพราะผู้เขียนมีบทความเก่าที่เคยตีพิมพ์แล้วจำนวนหนึ่ง. เมื่อถาม ChatGPT ว่าจะขอ upload งานที่เป็น pdf หรือ word ให้อ่านจะได้ไหม. ChatGPT ก็บอกให้ส่งมาเป็น pdf โดยไปที่เว็บของ AskYourPDF, โหลดไฟล์แล้ว copy doc_id มาให้เขา
เมื่อแน่ใจว่าวิธีนี้ทำได้ ผู้เขียนจึงได้สั่งให้ ChatGPT เรียนรู้วิธีการเขียนจากงานที่จะส่งให้อ่าน และบอกขั้นตอนการเรียนรู้. เริ่มจากการรับคำสั่ง BEGIN แล้ว ChatGPT ต้องทำอะไรบ้าง. ChatGPT ก็ตอบรับว่าเข้าใจและทวนลำดับขั้นตอนให้เห็นว่าใครจะทำอะไรในขั้นตอนไหนบ้าง
เมื่อเริ่มต้นพิมพ์ BEGIN ตามที่ตกลง ChatGPT ก็ถามหาบทความที่จะให้อ่าน เราก็ upload บทความแรกเข้าไปในเว็บ AskYourPDF จากนั้น copy doc_id มาใส่ให้. ChatGPT จะบอกว่าได้อ่านจบแล้ว และพิมพ์ next ตามที่ตกลง. เราก็ทำกระบวนการนี้คือโหลดไปทีละบทความให้ ChatGPT อ่าน
หลังจากป้อนบทความไปจนหมด ซึ่งในที่นี้ ได้ทดลองให้อ่านไปทั้งหมดหกบทความ เมื่อจบกระบวนการด้วยการพิมพ์ END ตามที่ตกลง ChatGPT ก็บอกว่าได้วิเคราะห์และเข้าใจสไตล์การเขียนของเราแล้ว และทดลองเขียนข้อความหนึ่งย่อหน้าเป็นตัวอย่างให้ดูตามสไตล์นั้น
Thank you for providing the documents. I’ve read and analyzed them to understand your writing style. Now, I’ll attempt to write in a manner that reflects your style.
Here’s a sample paragraph:
“In the realm of language learning and teaching, the utilization of digital tools has been observed to significantly enhance the learning experience. One such tool is the ‘corpus’, a large and structured set of texts. These corpora, whether corpus-driven or corpus-based, have illuminated the importance of lexical and phraseological units in language teaching. For instance, the application of a concordance software, such as AntConc, allows learners to explore authentic language data, thereby encouraging a form of discovery learning. This approach, known as data-driven learning, prompts students to act as researchers, delving into the language they are learning. It is, essentially, a shift towards inductive learning. However, the effectiveness of this approach hinges on the students’ ability to interpret concordance output, a skill that requires training and experience. The question of whether this is feasible for all students remains a topic of ongoing discussion in the field of language education.”
Please let me know if you need anything else.
เมื่อลองเอาข้อความนี้ไปตรวจสอบกับเว็บอย่าง ZeroGPT [1] ว่ามองออกไหมว่าข้อความนี้เขียนด้วย ChatGPT. ผลปรากฏว่าโปรแกรมตรวจว่ามีเพียงส่วนน้อยคือ 26% ที่เขียนโดย AI หรือ GPT. ในขณะที่ถ้าเอาข้อความที่ปกติเขียนโดย ChatGPT เองไปตรวจก็จะถูกตรวจจับได้ 100%. ข้อมูลนี้แสดงว่าบทความที่ส่งให้ ChatGPT เรียนรู้สไตล์การเขียนนั้นมีผลกับข้อความที่เขียนออกมาจริง. และถ้าดูลักษณะการเขียนก็เห็นว่าเป็นรูปแบบคล้ายกับที่ผู้เขียนจะเขียนเองอยู่ แม้ว่าคำศัพท์บางคำจะไม่ใช่คำที่ผู้เขียนคุ้นเคยหรือใช้. ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะข้อความที่ ChatGPT เห็นจากงานของผู้เขียนมีเพียงแค่หกบทความหรือประมาณ 80 หน้าเท่านั้น (รวมบรรณานุกรม)
หากผู้เขียนได้โหลดบทความมากกว่านี้ก็น่าจะได้สไตล์การเขียนที่คล้ายกับเขียนเองมากขึ้น. คำถามต่อมาคือเราสามารถโหลดงานเขียนไปให้ ChatGPT เรียนรู้ได้มากแค่ไหน มีข้อจำกัดด้านจำนวนคำหรือไม่. เมื่อลองถาม ChatGPT เรื่องนี้ ChatGPT ก็ตอบมาเหมือนไม่มีข้อจำกัดใด ๆ.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบต่อไป เพราะข้อมูลที่เปิดเผย ChatGPT รับข้อความได้ประมาณ 500–1,000 คำ ในขณะที่ GPT-4 ซึ่งเป็นโมเดลที่ใช้ใน ChatGPT plus สามารถรับข้อความเข้าได้ 25,000 คำ. ปัญหาอีกอย่างคือ หากออกจาก chat ที่คุยอยู่ สิ่งที่ได้เรียนรู้จะยังจำได้อยู่ไหม. แต่หากมองว่าคุณสมบัติและความสามารถของ ChatGPT มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ. ในอนาคตจึงเป็นไปได้ที่แต่ละคนจะสามารถสอนให้ ChatGPT เขียนตามสไตล์ของตัวเองได้ไม่ยาก และน่าจะสั่งให้เป็นค่าตั้งต้นในการใช้งานของแต่ละคนได้ด้วย.
สร้าง Custom GPT (update Nov 22, 2023)
หลังการ update ChatGPT Plus เมื่อ 6 พ.ย. 2023 ให้สามารถสร้าง GPT เฉพาะของตัวเองได้ เราก็สามารถสร้าง GPT ที่เรียนรู้วิธีการเขียนของเราเอง และสามารถใช้ GPT ที่สร้างขึ้นช่วยเขียนทั้งภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยตามรูปแบบสไตล์การเขียนของเราได้ ขอเพียงให้มีข้อมูลงานเขียนเก่าที่เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทย แล้ว upload ให้ GPT เรียนจากข้อมูลเก่านั้น
เมื่อเริ่มสร้าง Custom GPT ให้เราอธิบายก่อนว่าต้องการสร้าง GPT เฉพาะตัวนี้มาเพื่อทำอะไร และสร้าง logo ของ custom GPT ที่สร้างใหม่นี้ ในตัวอย่างนี้ ได้ให้สร้าง wirote.bot
หลังจากสร้าง profile แล้วก็สามารถ upload งานเก่า ๆ ที่เคยเขียนไปให้ ในรูปข้างล่างมาจากการ upload แต่ละงานเป็นไฟล์ต่างหาก ซึ่งเมื่อทำไปก็จะมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนไฟล์ที่จะ upload ได้ วิธีที่ดีกว่าคือนำไฟล์งานที่มีไม่กี่หน้ามารวมเป็นไฟล์ใหญ่ไฟล์เดียวก่อนจะ upload เพราะ GPT สามารถอ่านไฟล์หนังสือหลายร้อยได้
เมื่อสร้าง GPT ตัวเองแล้ว จะเก็บไว้ใช้เองหรือเผยแพร่ในคนอื่นใช้ด้วยก็ได้ เราจะเห็นคำอธิบาย GPT ที่สร้างขึ้นว่าเป็น GPT ที่เลียนแบบวิธีการเขียนของเราโดยใช้ข้อมูลที่ให้คือหนังสือภาษาไทยสองเล่มและรวมบทความภาษาอังกฤษสิบสามบทความในไฟล์ pdf เดียว
หมายเหตุ
บทความนี้ไม่ได้มุ่งหมายให้ใช้วิธีนี้เพื่อเลี่ยงการตรวจจับจากโปรแกรมตรวจงานเขียนจาก ChatGPT เพราะวิธีเลี่ยงการตรวจจับอาจทำได้ด้วยวิธีการอื่นได้ไม่ยาก. แต่ผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นความเป็นไปได้ที่ AI อย่าง ChatGPT หรือโมเดลอื่น ๆ จะถูกใช้เป็นเครื่องมือส่วนบุคคลที่สะท้อนอัตลักษณ์แต่ละคนได้ เพราะภาษาเขียนหรือสำเนียงพูดก็สามารถนำมาปรับสอนให้ AI ใช้ภาษาตามลักษณะการเขียนการพูดของแต่ละคนได้ไม่ยาก [2]
อ้างอิง
[1] ZeroGPT — Chat GPT, Open AI and AI text detector Free Tool. (https://www.zerogpt.com)
[2] Best AI Voice Cloning Software For Free — Voice.AI. (https://voice.ai/voice-cloning)